มะม่วงแก้วขมิ้น
จ.กาฬสินธุ์
฿ 50 / กิโลกรัม
ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. |
สั่งซื้อสินค้า โปรดคลิก
รายละเอียดสินค้า
รู้หรือไม่ว่าจังหวัดกาฬสินธุ์มีเพชร
สภาพพื้นที่ตำบลบึงวิชัยอยู่ในพื้นที่ต้นน้ำ โดยได้รับน้ำจากคลองชลประทานจากเขื่อนลำปาว เดิมเกษตรกรจะปลูกพืชไร่ นาข้าว และพืชผัก พื้นที่ดอนเกษตรกรจะปลูกพืชไร่ เช่น มันสำปะหลัง พื้นที่ลุ่มจะทำนาข้าวและปลูกพืชผัก ซึ่งการทำกิจกรรมดังกล่าวได้ไม่คุ้มกับการลงทุนและเสี่ยงต่อภัยธรรมชาติ อีกทั้งปัญหาเรื่องราคาผลผลิตตกต่ำรายได้ไม่พอใช้จ่ายในครัวเรือน เกษตรกรจึงคิดปรับเปลี่ยนหาวิธีปลูกพืชอื่นทดแทน เมื่อปี 2538 มีเจ้าหน้าที่จากศูนย์มะม่วงแก้วจังหวัดศรีสะเกษ ได้เข้ามาแนะนำเรื่องการปลูกมะม่วงพร้อมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเกษตรอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ได้แนะนำเรื่องการผลิตมะม่วงนอกฤดู เกษตรกรจึงหันมาปลูกมะม่วงแก้วและมะม่วงน้ำดอกไม้กันมากขึ้น ปัจจุบันตำบลบึงวิชัยมีพื้นที่ปลูกมะม่วงทั้งสิ้น 1,136 ไร่ แบ่งเป็นมะม่วงแก้ว จำนวน 883.5 ไร่ มะม่วงน้ำดอกไม้ จำนวน 244.5 ไร่ และมะม่วงอื่นๆ จำนวน 8 ไร่ พื้นที่ให้ผลผลิต จำนวน 592.5 ไร่ ปริมาณผลผลิตเฉลี่ย จำนวน 466.5 ตัน/ปี คิดเป็นมูลค่า จำนวน 16,327,500 บาท/ปี ผลิตมะม่วงภายใต้มาตรฐาน GAP เกษตรกรส่วนใหญ่จะปลูกมะม่วงแก้ว ด้วยเหตุผลอยู่ในพื้นที่ต้นน้ำช่วงก่อนเก็บเกี่ยวผลผลิต สามารถงดการให้น้ำส่งผลให้มะม่วงมีรสชาติ หวาน กรอบอร่อย เนื้อแน่น ไม่เน่าเสียง่าย ซึ่งเป็นจุดเด่นของมะม่วงแก้วตำบลบึงวิชัย เกษตรกรจะเก็บเกี่ยวผลผลิตตั้งแต่เดือนธันวาคมไปจนถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี ผลผลิตจึงมีทั้งในฤดูและนอกฤดู ทำให้ตำบลบึงวิชัยเปรียบเสมือนมีเพชรอยู่ในพื้นที่ สามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และสร้างความเข้มแข็งให้กับคนในชุมชนได้เป็นอย่างดี
มาตรฐานที่ได้รับ
ติดต่อ พูดคุย กับองค์กรเกษตรกร
ช่องทางการจัดส่ง
- ไปรษณีย์ไทย