น้ำผึ้งกระชายดำ

“แต่ก่อนพื้นที่เป็นสวนเงาะซึ่งจะออกดอกทุกปีแต่ติดผลน้อยมาก จนถึงไม่มีการติดผลเลยเนื่องจากไม่ได้รับการผสมพันธุ์ จังหวัดจันทบุรีจึงได้ให้ยืมผึ้งเพื่อผสมเกสรเงาะ ได้มาคนละ 4 ลัง ปรากฎว่าในปีนั้นเงาะที่สวนตนเองและสวนข้างเคียงให้ผลผลิตมากโดยมิคาดฝันมาก่อน จึงกลับไปที่ศูนย์อีกครั้งเพื่อขอซื้อผึ้งมาเลี้ยง แต่ทางหัวหน้าศูนย์ไม่ขายให้ แต่บอกว่าให้มีการจัดอมรมก่อนจึงจะสามารถเลี้ยงผึ้งได้ ถ้าขายให้ตอนนี้ผึ้งจะตายหมด เพราะเรายังไม่มีการเรียนรู้วิถีชีวิตของผึ้ง และเมื่อมีการอบรมเสร็จ จึงสั่งซื้อผึ้งครั้งแรกจำนวน 5 ลัง เนื่องจากที่สวนไม่ได้ใช้สารเคมีอยู่แล้ว จึงสามารถเลี้ยงผึ้งได้เลย และได้ขอร้องให้ชาวสวนใกล้เคียงลดการใช้สารเคมี หรือเวลาจะพ่นสารเคมีช่วยบอกก่อนจะได้ขังผึ้ง และปีนั้นเงาะก็ให้ผลผลิตมากและยังได้ผลผลิตที่มีราคาแพงกว่าเงาะ คือน้ำผึ้งเข้ามาเสริมรายได้ในครอบครัว”

นี่คือคำบอกเล่าของนายอรุณ วิเศษฤทธิ์ หรือลุงรุณที่คนในพื้นที่เรียกกันจนติดปาก ลุงรุณเป็นเกษตรกรและผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงผึ้งของอำเภอเขาคิชฌกูฏ ผู้ซึ่งริเริ่มการเลี้ยงผึ้งจนผู้นำชุมชนได้เล็งเห็นความสำคัญของอาชีพเลี้ยงผึ้งนี้ จึงได้ส่งลุงรุณเป็นผู้นำอาชีพก้าวหน้าของอำเภอเขาคิชฌกูฏ และเป็นผู้นำอาชีพก้าวหน้าระดับจังหวัด ทำให้มีผู้สนใจในชุมชนและต่างอำเภอ ต่างจังหวัดสนใจในการเลี้ยงผึ้ง จึงได้มีการรวบรวมรายชื่อและประสานกับศูนย์อนุรักษ์และขยายพันธุ์ผึ้งที่ 4 จังหวัดจันทบุรี จัดให้มีการอบรมเรียนรู้วิถีชีวิตของผึ้งและได้มีผู้สนใจเลี้ยงจริง จึงจัดตั้งกลุ่มผู้เลี้ยงผึ้งคิชฌกูฏขึ้น และสมาชิกที่ผ่านการอบรมยังได้มีการช่วยกันรณรงค์ให้เกษตรกรลดการใช้สารเคมีอีกด้วย เพื่อรองรับนโยบายครัวของโลก

จากความมหัศจรรย์ที่ผึ้งตัวเล็กๆ มอบให้แก่มวลมนุษย์ ลุงรุณจึงขยายผลต่อโดยชักชวนเพื่อนบ้านและผู้สนใจรวมกลุ่มเข้าอบรมการเลี้ยงผึ้ง และจัดตั้งเป็นกลุ่มผู้เลี้ยงผึ้งและกลุ่มผู้ผลิตน้ำผึ้ง และนำสิ่งที่ผึ้งผลิตมาเพิ่มมูลค่าโดยบรรจุลงภาชนะในรูปแบบต่างๆ เพื่อสะดวกแก่การเก็บรักษาและการนำออกมารับประทานใช้ประโยชน์ ออกจำหน่ายและส่งเข้าคัดสรรเป็นสินค้า OTOP ระดับ 4 ดาว และเข้าจดทะเบียนเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนน้ำผึ้งคิชฌกูฏ ในปี 2552 ปัจจุบันมีการพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ได้รับคัดสรรสินค้า OTOP ระดับ 5 ดาว