กาแฟลุงไข่เกษตรอินทรีย์ (200 กรัม)

Story "กาแฟลุงไข่ เกษตรอินทรีย์"

นายธนาสิทธิ์ สอนสุภา (แขก) ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ที่ 6 บ้านนาตื่นเขา ตำบลหินแก้ว อำเภอท่าแซะ

จังหวัดชุมพร อายุ 37 ปี เป็นลูกชายคนเล็กของนายธีระวิทย์ สอนสุภา (ถุงไข่) เดิมทีพ่อปลูกกาแฟสายพันธุ์โรบัสตามา

ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2502 เป็นโครงการ "กาแฟริมรั้ว" โดยปลูกมานานกว่า 30 ปีแล้ว แต่เดิมปลูกกาแฟในพื้นที่ 26 ไร่ ต่อมาเจอปัญหาเรื่องราคากาแฟตกต่ำ จึงต้องปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกพืชเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น ปลูกยางพารา ปลูกปาล์มน้ำมัน และทุเรียน ปัจจุบันจึงเหลือพื้นที่ปลูกกาแฟซึ่งเป็นกาแฟอินทรีย์สายพันธุ์โรบัสตา จำนวน 10 ไร่ ซึ่งปลูกในรูปแบบของสวนผสม ที่มีทั้งทุเรียน ลองกอง ขนุน เงาะ และต้นกาแฟสายพันธุ์โรบัสตาอาบุกว่า 30 ปี ทั้งนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการทำการเกษตรมาเป็นเกษตรอินทรีย์ได้ 7 ปีแล้ว มีกาแฟสายพันธุ์โรบัสตาประมาณ 750 ต้น อาศัยน้ำฝนตามธรรมชาติเป็นหลัก เนื่องด้วยการเป็นสวนผสม ส่งผลให้หน้าดินภายในแปลงขังค่อนข้างสมบูรณ์มาก จะมีการใส่ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยที่หมักเองให้กับกาแฟบ้างในบางช่วง ส่วนโรคและแมลงนั้นก็ไม่ค่อยพบปัญหาอะไรกาแฟลุงไข่ เป็นกาแฟโรบัสตาสายพันธุ์ดั้งเดิมของจังหวัดชุมพร เลือกเก็บผลกาแฟที่สุกแดงฉ่ำเท่านั้น และจะเก็บในช่วงเวลาเช้า มาผ่านกระบวนการลอยน้ำและล้างทำความสะอาด โดยนำเอาเครื่องซักผ้ามาใช้ในการปั่นล้างผลกาแฟโรบัสตา โดยล้างน้ำสะอาด จำนวน 3 ครั้ง และนำผลกาแฟที่ผ่านการล้างมาสลัดน้ำให้แห้ง และเข้าสู่กระบวนการบ่มจนให้กาแฟทุกผลสุกเท่าๆ กัน แล้วนำไปตากแดดให้แห้งสนิท จากนั้นเก็บบ่มในรูปแบบกาแฟกะลาและเชอรี่แห้งอย่างน้อยประมาณ 8 เดือนแล้วนำมาสี หรืออีกกระบวนการก็ คือ วิธีการสีสด หลังจากที่ปั่นทำความสะอาด และสีสด หลังจากสีสดแล้วก็จะได้กาแฟกะลาแล้วจึงนำไปตากแห้ง วิธีนี้จะช่วยให้ระยะเวลาในการตากจะแห้งเร็วขึ้น เมื่อมาเป็นเมล็ดกาแฟแล้ว ต้องมีคัดทุกเมล็ดกาแฟด้วยมือเพื่อนำมาคั่วจำหน่ายเป็นกาแฟสด ได้เป็น"กาแฟลุงไข่" สวนลุงไข่ เกษตรอินทรีย์ ที่มีคุณภาพนั่นเอง

การันตีด้วย รางวัลชนะเลิศ การประกวดสุดยอดกาแฟไทย ปี 2564 ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี